VR คืออะไร แตกต่างจาก AR ยังไง เทคโนโลยียุคใหม่ที่ต้องศึกษา
เทคโนโลยี VR และ AR เข้ามามีบทบาทต่อการใช้ชีวิตของผู้คนมากขึ้น เพิ่มความสะดวกสบาย สร้างความล้ำหน้าในแบบที่ไม่เคยพบเจอ อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่ยังสงสัยว่า VR คืออะไร แตกต่างจาก AR ยังไงบ้าง ลองมาศึกษาข้อมูลเหล่านี้เพื่อนำไปต่อยอดสร้างประโยชน์ให้กับตนเองในอนาคตได้เลย
VR คืออะไร
Virtual Reality หรือ VR คือ เทคโนโลยีการจำลองภาพเสมือนจริงเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์คล้ายกับตนเองเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมนั้น ๆ ผ่านประสาทสัมผัส 4 ด้าน ได้แก่ การมองเห็น ได้ยิน สัมผัส หรือแม้แต่รับกลิ่น สามารถโต้ตอบ สื่อสาร รับรู้ในโลกจำลองผ่านการทำงานร่วมกับอุปกรณ์เสริม เช่น แว่นตา เมาส์ คีย์บอร์ด จอยเกม หรือแม้แต่ถุงมือ ถุงเท้าที่ถูกพัฒนาขึ้น ถือเป็นความล้ำสมัยที่เปลี่ยนโลกให้แตกต่างไปจากเดิม
AR คืออะไร
Augmented Reality หรือ AR คือ เทคโนโลยีที่มีการนำโลกเสมือนเข้ามาผสานร่วมกับโลกแห่งความเป็นจริงผ่านระบบซอฟต์แวร์เกิดเป็นวัตถุ 3 มิติ หรือวัตถุเสมือนในรูปแบบภาพ เสียง วิดีโอ ซ้อนทับอยู่บนสถานการณ์จริง ซึ่งจะสัมผัสได้ผ่านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ เช่น แว่นตา สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ ปัจจุบันแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่
- Marker-based AR การจดจำภาพผ่านเครื่องหมาย รหัส หรือ QR Code เช่น การใช้กล้องสมาร์ทโฟนส่องเพื่อดูวัตถุ 3 มิติ
- Marker-less AR การสร้างวัตถุ 3 มิติ เสมือนจริงได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องหมาย แต่ใช้การวิเคราะห์ลักษณะต่าง ๆ แทน
- Projection-based AR การใช้โปรเจกเตอร์ หรือจอภาพ เพื่อฉายภาพ 3 มิติ
- Superimposition-based AR การแสดงวัตถุ 3 มิติแบบซ้อนทับ โดยสถานที่หรือบริเวณดังกล่าวจะถูกทับด้วยวัตถุ 3 มิติ เมื่อมองผ่านอุปกรณ์ เช่น เปิดแอปแล้วมองผ่านกล้องมือถือ
- Location-based AR การวิเคราะห์และแสดงผลโดยอาศัยข้อมูลจากตำแหน่งและภูมิศาสตร์ เช่น การเปิดแอปมือถือสแกนสภาพแวดล้อมโดยรอบและจะมีวัตถุ 3 มิติ เกิดขึ้น
ตัวอย่างการนำเทคโนโลยี VR และ AR ไปใช้งาน
เทคโนโลยี VR และ AR ถูกนำไปใช้งานในหลายแวดวงเพื่อตอบสนองกับความต้องการของมนุษย์ รวมถึงยังต่อยอดเพื่อความสะดวกสบายและสร้างประโยชน์ได้มากมายไม่ว่าจะเป็น
- วงการเกม การจำลองเสมือนว่าตนเองคือตัวละครแล้วเข้าไปมีส่วนร่วมกับโลกของเกม เช่น เกมสไตล์ FPS (เกมแนวยิงปืน) หรือการนำ Location จริงเข้ามาผสานรวมอยู่ในเกม
- วงการแพทย์ ฝึกฝนทักษะด้านการรักษาผู้ป่วย เช่น การผ่าตัด ศึกษาด้านสรีระวิทยา องค์ประกอบของร่างกาย อวัยวะต่าง ๆ
- การศึกษา ผู้ใช้สามารถใกล้ชิดกับสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเรียนรู้ข้อมูลแบบเจาะลึก เช่น การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ การชมสถานที่สำคัญของโลก ฯลฯ
- การท่องเที่ยว ตัวช่วยสร้างความมั่นใจก่อนตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว หรือจองเข้าพักกับโรงแรมต่าง ๆ
- ด้านอากาศยาน ใช้จำลองการฝึกขับเครื่องบินรุ่นต่าง ๆ ของกัปตัน จำลองการช่วยเหลือผู้โดยสารเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
- วงการทหาร ใช้สำหรับฝึกซ้อมแผนการรบ จำลองสถานการณ์หรือกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การกระโดดร่ม การอยู่ในถ้ำ ป่า
สรุป
VR คือ ตัวช่วยสร้างโลกเสมือนเพื่อให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับประสบการณ์ชั้นยอด ขณะที่ AR คือ การนำโลกเสมือนมาผสานร่วมกับโลกของจริงให้เกิดประโยชน์ด้านต่าง ๆ ซึ่งทั้ง 2 เทคโนโลยีนี้สามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างลงตัว และยังต่อยอดพัฒนาความทันสมัยของทุกวงการทั่วโลกให้เติบโต จึงเป็นอีกสิ่งดี ๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาแล้วสร้างผลลัพธ์ได้อย่างน่าพึงพอใจ